Reservation Now
สันนิษฐานว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างขึ้นเมื่อครั้งเสด็จเข้าเมืองจันทบุรี ซึ่งศาลเดิมน่าจะสร้างด้วยศิลาแลงที่ยังปรากฏร่องรอยให้เห็น อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก มีต้นโพธิ์และต้นข่อยขึ้นปกคลุมจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ก่อนที่จะมีการสร้างศาลไม้รูปทรงธรรมดา และต่อมาในปี พ.ศ.2524 ทางจังหวัดจันทุบรีได้ก่อนสร้างศาลฝังเสาหลักเมือง และหล่อองค์เจ้าพ่อขึ้นใหม่ มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทยแบบจัตุรมุข ก่ออิฐถือปูน มีช่อฟ้าใบระกา และมีปรางค์ที่ด้านบน นอกจากนั้นบริเวณใกล้ ๆ กับศาลหลักเมือง ยังได้สร้างศาลขนาดเล็ก ที่สวยงามในแบบสถาปัตยกรรมจีนขึ้นอีกด้วย ส่งให้ศาลหลักเมืองดูสง่างามเพิ่มขึ้นไปอีก
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ที่ปรากฏลึกบนแผ่นหินใหญ่ อยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏที่ความสูง 1,050 เมตร จากระดับน้ำทะเล เชื่อกันว่าใครได้มานมัสการแล้วก็เปรียบเหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะได้รับกุศลอันยิ่งใหญ่ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง อธิษฐานขอพรแล้วจะสมหวังดั่งใจปรารถนา
การเดินทางไปต้องนั่งรถขึ้นเขาและเดินเท้าต่อสู่ยอดเขาอีกราว 3 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีจุดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่ผูกกับตำนานทาพระพุทธศาสนาทั้งศิลาเจดีย์, หินรูปบาตรคว่ำ, ถ้ำฤาษี, หินรูปร่างคล้ายเต่า และช้างขนาดยักษ์ ท่ามกลางธรรมชาติอัมร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายและทิวทัศน์ที่สวยงามกว้างไกลของจังหวัดจันทบุรี
อยู่ในบริเวณของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริโดยกรมประมงได้จัดหาและรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำทะเลที่น่าสนใจจากท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียงจัดแสดงทั้งหมด 36 ตู้ ส่วนใหญ่เป็นปลาทะเล ทั้งปลาสวยงาม, ปลาในแนวปะการัง และปลาที่มีรูปร่างแปลก โดยมีวิทยาการนำบรรยายความรู้ให้กับผู้เยี่ยมชม
อยู่ในบริเวณของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์สัตว์ทะเลหายาก เปิดให้เข้าศึกษาเรียนรู้และสัมผัสอย่างใกล้ชิด ทั้งการเลี้ยงปลาในกระชัง, เลี้ยงหอยนางรม, ธนาคารปูม้า ๆลๆ ตลอดจนมีพันธุ์สัตว์น้ำนานาชนิด อาทิ ปลาฉลามเสือดาว, ปลาหมอทะเล, ปลาฉลามหัวบาตร, เต่าตนุ, เต่ากระ, ปลากะพงขาว และปลาเก๋า
ตั้งอยู่ภายในบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์คุ้งกระเบน โดยในช่วงเวลาน้ำลงตอนกลางวันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน จะมองเห็นหินสีชมพูอมม่วง-สีน้ำตาลแดง ซึ่งเปิดให้ประชาชนเข้ามาท่องเที่ยวและศึกษาเส้นทางเดินธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1,000 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง และเมื่อถึงจุดยืนที่ลาดหินสีชมพูแล้วมองไปทางทิศตะวันออกจะสามารถมองเห็นเกาะแก่งต่างๆในทะเลได้อย่างสวยงามกว้างไกล
วัดในพระพุทธศาสนาลัทธิมหายานฝ่ายจีนนิกาย เป็นสาขาของวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ที่กรุงเทพฯ สร้างเมื่อ พ.ศ.2520 เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมลักษณะผสมผสานระหว่างพุทธศิลป์ไทย-จีนภาคใต้ ด้านหน้าเป็นวัดเป็นวิหารท้าวจตุโลกบาลประดิษฐานพระศรีอารยเมตไตรยโพธิ์สัตว์และท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ขณะที่ด้านในวัดมีอุโบสถทรงจีนหลังคาซ้อน 3 ชั้น ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาประธานสามพระองค์
น้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย ไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มีปลาใหญ่น้อยหลายชนิด โดยเฉพาะ “ปลาพลวงหิน” นอกจากนี้ยังมีอลงกรณ์เจดีย์ สร้างด้วยศิลาแลง เมื่อ พ.ศ.2419 โดยรัชกาลที่ 5 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เสด็จเมื่อ พ.ศ.2417 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ไว้เพื่อเป็นที่ระลึก และยังมีปิรามิดพระนางเรือล่ม เป็นสถูปสร้างด้วยหินแกรนิต เมื่อ พ.ศ.2424 เพื่อเป็นที่ระลึกของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีต่อพระนางเจ้าสุนันทาฯ หลังจากที่พระนางเสด็จทิวงคต
เป็นสะพานที่ทอดข้ามปากแม่น้ำจันทบุรีเชื่อมต่อระหว่างตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ และตำบลบางกระไชย ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออก ระยะทาง 1,060 เมตร ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถมองเห็นชุมชนประมงพื้นบ้านที่ทอดยาวไปตามชายฝั่งปากแม่น้ำจันทบุรี เป็นจุดชมวิวและจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมากแห่งหนึ่งของจันทบุรี รวมถึงยังเป็นแหล่งตกปลาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
เป็นไฮไลท์ส่วนหนึ่งของถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ตั้งอยู่บนเนินริมทะเลใกล้กับหาดคุ้งวิมานและปากอ่าวคุ้งกระเบน ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของภาคตะวันออก มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งถนนเลียบชายทะเลที่ทอดยาวไปจนถึงหาดคุ้งวิมาน, อ่าวคุ้งกระเบน และหาดแหลมเสด็จ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตรงบริเวณปากอ่าว
เป็นวัดที่ได้รับแรงศรัทธาจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากการพัฒนาโดย หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ที่นี้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบร่มรื่นท่ามกลางธรรมชาติและป่าเขา รวมถึงเป็นแหล่งของศาสนสถาน, ศาสนสมบัติ และศาสนวัตถุอันล้ำค่า มีการจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศและมีพิพิธภัณฑ์วัดเขาสุกิมเป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุ ทั้งพระพุทธรูปและเครื่องใช้โบราณมากมาย
ชุมชนเก่าแก่ที่ติดริมน้ำจันทบุรี ที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและยังคงร่องรอยของวิถีชีวิตในอดีตกว่า 300 ปี ซึ่งที่นี้เคยเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิคที่ผสมผสานระหว่างสายน้ำ, อาคารบ้านเรือนโบราณ, ศิลปวัฒนธรรม, วิถีชีวิตริมน้ำ, สิ้นค้าพื้นเมือง และอาหารอร่อยมากมาย